ภาพรวมตลาด
แม้ว่ารายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Walmart จะเผยกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย แต่รายได้โดยรวมกลับสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะการเติบโตของยอดขายสุทธิทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นถึง 4.8% ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักในกลุ่มของชำและสุขภาพ รวมถึงการขยายตัวของยอดขายออนไลน์ที่เติบโตถึง 25% การเติบโตของธุรกิจโฆษณาอีก 46% ชี้ให้เห็นว่า Walmart กำลังวางกลยุทธ์ในการสร้างแหล่งรายได้ใหม่ๆ ที่มีมาร์จิ้นสูง ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อการฟื้นตัวของราคาหุ้นในระยะถัดไป
การที่นักวิเคราะห์หลายราย เช่น BofA Securities, Tigress Financial และ Bernstein ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้น Walmart ขึ้นเป็น 125 ดอลลาร์ บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มรายได้และผลกำไรในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อรวมกับการประชุมนักลงทุนที่ Bentonville ซึ่งสะท้อนวิสัยทัศน์เชิงรุกของทีมผู้บริหารต่อการเติบโตระยะยาว ทั้งจากกลยุทธ์ขยายสาขาต่างประเทศ เช่น แอฟริกาใต้ การเสริมความแข็งแกร่งของสมาชิก Walmart+ ด้วยสิทธิประโยชน์ด้านสื่อสตรีมมิง และการยกระดับประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติ ล้วนตอกย้ำว่าบริษัทไม่ได้หยุดนิ่งกับรูปแบบค้าปลีกแบบดั้งเดิม
ด้านประมาณการกำไรและรายได้ในอนาคตยังคงแข็งแกร่ง โดย Zacks ประเมินว่า EPS ของปีงบการเงินถัดไปจะเติบโต 12.2% ขณะที่รายได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ซึ่งบ่งชี้ว่าโมเมนตัมเชิงบวกยังอยู่ครบ และราคาหุ้นในปัจจุบันยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงอย่างเต็มที่ แม้การประเมินของ Zacks Value Style Score จะอยู่ในระดับ "C" ซึ่งหมายถึงซื้อขายที่ราคายุติธรรมเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ในบริบทของการเติบโตเชิงกลยุทธ์และขนาดกิจการระดับโลก อาจยังมีอัพไซด์เหลืออยู่
สุดท้าย แม้ว่าการที่บริษัทปรับคำแนะนำ FY26 (Fiscal Year 2026 Guidance Revision) จะต่ำกว่าฉันทามติของนักวิเคราะห์เล็กน้อย แต่การที่บริษัทกล้าปรับกรอบเป้าหมายกำไรขึ้นจากช่วงก่อนหน้า แสดงถึงความมั่นใจในการฟื้นตัวของธุรกิจท่ามกลางสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจที่ยังท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยอดขายในประเทศสหรัฐและต่างประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับการสนับสนุนจากเทคโนโลยี AI และการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล จะช่วยให้ Walmart รักษาความสามารถในการแข่งขันและหนุนราคาหุ้นให้มีแนวโน้มปรับขึ้นต่อในระยะกลางถึงยาว
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
WALMART
ราคาของหุ้น Walmart ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งและสามารถเคลื่อนตัวเหนือกรอบแนวต้านสีแดงได้อย่างมั่นคง ซึ่งสะท้อนถึงแรงซื้อที่ยังคงหนุนแนวโน้มขาขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ราคายังเคลื่อนไหวอยู่ภายในกรอบเทรนไลน์ขาขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของโมเมนตัมฝั่งขาขึ้นที่ยังคงอยู่ในทิศทางหลัก เป้าหมายถัดไปของราคาจะอยู่ที่แนวต้านบริเวณ 110 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับสำคัญที่ตลาดอาจเข้าทดสอบได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวลงและหลุดกรอบแนวรับบริเวณ 90 ดอลลาร์ลงมาได้ ก็อาจทำให้แนวโน้มเปลี่ยนทิศทางเข้าสู่ฝั่งขาลง และสร้างแรงกดดันให้โมเมนตัมอ่อนแรงลงได้ในที่สุด
WALMART (DAILY)
