ภาพรวมตลาด
แม้จะเผชิญกับข้อจำกัดทางการค้าจากสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ Nvidia สูญเสียรายได้ประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์จากคำสั่งห้ามขายชิป H20 ให้กับจีน แต่ผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดกลับออกมาโดดเด่นอย่างยิ่ง โดยบริษัทมีรายได้รวมสูงถึง 4.41 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 73% สะท้อนถึงอุปสงค์ทั่วโลกที่แข็งแกร่งจากองค์กรขนาดใหญ่ และชี้ให้เห็นถึงความสามารถของ Nvidia ในการชดเชยการสูญเสียตลาดจีน ด้วยการขยายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคอื่นได้อย่างมั่นคง อีกทั้งบริษัทยังสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับสูงกว่า 71% ซึ่งเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม
จุดเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญคือการเปิดตัวชิป Blackwell ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด และกลายเป็นหมุดหมายใหม่ที่ตอกย้ำบทบาทผู้นำของ Nvidia ในตลาด AI โดยลูกค้าระดับโลกอย่าง Microsoft และ AWS ต่างประกาศแผนลงทุนเพิ่มเติมในโครงสร้างพื้นฐาน AI สอดรับกับวงเงินการใช้จ่ายรวมของกลุ่ม Big Tech ที่คาดว่าจะสูงถึง 3.45 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้เพียงปีเดียว ทั้งนี้ ชิป Blackwell ยังมีศักยภาพในการสร้างรายได้สูงถึง 9.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Nvidia ไม่เพียงแค่รักษาความเป็นผู้นำในด้านฮาร์ดแวร์ AI แต่ยังขยายขอบเขตสู่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของโลกในภาพรวม
นอกจากนี้ Nvidia ยังได้รับแรงสนับสนุนจากการขยายตลาดไปยังอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น ยานยนต์ การแพทย์ และหุ่นยนต์ ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงจากลูกค้าเดิมกลุ่ม hyperscaler ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีแรงส่งเชิงยุทธศาสตร์จากความร่วมมือกับประเทศในตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่กำลังลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI เพื่อสร้างความสามารถในการควบคุมข้อมูลและเทคโนโลยีภายในประเทศของตน ความร่วมมือเชิงลึกเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเสริมบทบาทของ Nvidia บนเวทีโลก แต่ยังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตระยะยาว ท่ามกลางภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
NVIDIA
ราคาหุ้นของ NVIDIA ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากที่สามารถทะลุกรอบแนวต้านด้านบนของกล่องสีแดงขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง และกลับมายืนเหนือเส้นแนวโน้มขาขึ้นหลักได้อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของโมเมนตัมในภาพรวม ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวของ RSI ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 71 แม้จะเริ่มเข้าใกล้เขต Overbought แต่ยังแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่หนุนแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนค่า MACD ยังคงอยู่ในแดนบวก โดยเส้น MACD ได้ตัดขึ้นเหนือเส้นสัญญาณแล้ว พร้อมกับแถบฮิสโตแกรมที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งยืนยันสัญญาณบวกในเชิงเทคนิคระยะสั้น หากราคายังคงยืนเหนือบริเวณกล่องสีแดงได้อย่างมั่นคง แนวโน้มขาขึ้นมีแนวโน้มที่จะต่อเนื่องไปยังแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 165 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากราคาอ่อนแรงลงและหลุดกลับเข้ากรอบสีแดงอีกครั้ง ก็อาจกลายเป็นสัญญาณกลับตัวระยะสั้น ซึ่งต้องจับตาความเคลื่อนไหวใกล้เส้นแนวรับของโครงสร้างขาขึ้นอีกครั้งในลำดับถัดไป
NVIDIA (DAILY)
