ภาพรวมตลาด
แม้ Tesla จะพยายามสร้างความเชื่อมั่นด้วยแผนการเปิดตัว robotaxi และเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ แต่ภาพรวมผลประกอบการในปัจจุบันยังสะท้อนแรงกดดันอย่างชัดเจน ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไตรมาสแรกของปี 2025 ลดลงถึง 13% เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจากยานยนต์หดตัวจาก 15.5% เหลือเพียง 11.3% บ่งชี้ว่าต้นทุนต่อหน่วยยังสูงเกินไปท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากทั้งค่ายรถยนต์ดั้งเดิมและผู้เล่นใหม่ในตลาด EV นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนารวมถึง Capex เพื่อขยายโรงงานและเทคโนโลยี AI ก็ยังคงสูง กัดกินกระแสเงินสดและสร้างความกังวลด้านกระแสเงินทุนหมุนเวียนในระยะกลาง
อีกหนึ่งสัญญาณลบคือการประเมินล่าสุดของ JPMorgan ที่คาดว่าการส่งมอบไตรมาสสองอาจพลาดเป้าได้อีกครั้ง หลังจากไตรมาสแรกก็ทำผลงานต่ำกว่าฉันทามติไปแล้ว ยอดส่งมอบอาจลดลงเหลือประมาณ 360,000 คัน ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ราว 392,000 คัน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะยิ่งตอกย้ำความกังวลเรื่องอุปสงค์ที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในตลาดยุโรปและจีนที่การแข่งขันเรื่องราคารุนแรงมากขึ้น ขณะเดียวกัน ความหวังเรื่องหุ่นยนต์ Optimus และธุรกิจหุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ที่หลายฝ่ายจับตาก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาเชิงพาณิชย์ อาจยังไม่สามารถสร้างกระแสรายได้ทันทีเพื่อชดเชยจุดอ่อนในธุรกิจหลักได้
แม้จะมีโครงการใหม่ๆ อย่าง robotaxi ที่อาจเป็นความหวังระยะยาว แต่บรรยากาศการลงทุนยังเผชิญแรงขายตามมุมมองของนักวิเคราะห์ที่ลดราคาเป้าหมายหุ้นลง เช่น JPMorgan ให้ราคาเป้าหมายแค่ 115 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าระดับปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ความผันผวนทางการเมืองและบทบาทของซีอีโอ Elon Musk ก็ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจสร้างแรงกดดันต่อราคาหุ้นในระยะสั้น สะท้อนว่าแม้ Tesla จะมีจุดแข็งด้านเทคโนโลยี แต่ในภาพรวมปัจจัยพื้นฐานยังต้องเผชิญแรงเสียดทานรอบด้าน ทำให้มีโอกาสที่หุ้นจะปรับตัวลงต่อเนื่องจนกว่าผลประกอบการและโมเมนตัมการส่งมอบจะพลิกฟื้นได้จริง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
TESLA
ราคาหุ้น Tesla ในกรอบเวลารายวัน (DAILY) ยังคงส่งสัญญาณว่าแรงกดดันฝั่งขายยังคงมีน้ำหนักอยู่พอสมควร หลังจากที่ล่าสุดราคาพยายามดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณกรอบสีแดง แต่กลับไม่สามารถฝ่าเหนือแนวต้านดังกล่าวได้อย่างชัดเจน การที่ราคาถูกกดกลับลงมาจากบริเวณนี้สะท้อนให้เห็นว่าฝั่งขายยังคงควบคุมทิศทางได้อยู่ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของราคาที่ยังคงอยู่ภายในกรอบเทรนไลน์ขาลงอย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งยืนยันว่าภาพรวมยังอยู่ในแนวโน้มขาลงเป็นหลักและแรงดีดกลับยังถูกจำกัดเอาไว้ ในส่วนของ RSI แม้จะยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับโซนกลาง แต่ก็ยังไม่ปรากฏสัญญาณการเร่งตัวขึ้นที่ชัดเจน ขณะที่สัญญาณจาก MACD เองก็ยังคงแกว่งตัวต่ำกว่าโซนเชิงบวก สะท้อนให้เห็นว่าแรงซื้อในรอบนี้ยังไม่แข็งแรงมากพอที่จะเปลี่ยนทิศทางได้อย่างเด็ดขาด ดังนั้น หากไม่มีแรงหนุนใหม่ที่มากพอ ราคายังมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงต่อ เพื่อกลับไปทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 283 ดอลลาร์อีกครั้ง ซึ่งเป็นโซนที่ต้องจับตาดูว่าฝั่งซื้อจะเข้ามารองรับได้มากน้อยเพียงใด
TESLA (DAILY)
