
ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการเทรดทองคำ
การเทรดทองคำไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้ขั้นตอนการเทรดทองอย่างได้ผลไปด้วยกัน
ขั้นตอนที่ 1: ทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวของราคา
ไม่ใช่เรื่องลับที่ทองคำไม่ได้เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันกับคู่สกุลเงิน หุ้น หรือสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ดังนั้นขั้นตอนแรกที่สำคัญคือการเรียนรู้ว่าอะไรเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคา ราคาทองคำได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย ทั้งทางเศรษฐกิจ จิตวิทยา และภูมิรัฐศาสตร์
เงินเฟ้อและเงินฝืด
ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุดเนื่องจากมีความมั่นคงสูง มันจึงเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน เมื่อมูลค่าเงินสดลดลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องธรรมชาติที่ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นในตอนที่เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงภาวะเงินฝืด เงินสดจะมีมูลค่าสูงขึ้น ดังนั้นความต้องการทองคำอาจลดลง เนื่องจากนักลงทุนจะหันไปให้ความสำคัญกับสกุลเงินมากขึ้น
อุปสงค์และอุปทาน
อุปทานของทองคำค่อนข้างคงที่ เนื่องจากการขุดทองคำใหม่เป็นกระบวนการที่ช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง ในทางทฤษฎี หากมีการพัฒนาหรือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการขุดเหมือง นั่นอาจทำให้อุปทานเพิ่มขึ้นและราคาลดลง
ในทางกลับกัน ความต้องการที่สูงขึ้นจะผลักดันให้ราคาสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ประเทศอย่างอินเดียและจีนมีความต้องการทองคำสำหรับเครื่องประดับ นอกจากนี้ ทองคำยังถูกนำไปใช้ในวงการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม และการแพทย์อีกด้วย
อารมณ์ตลาด ข่าวสาร และเหตุการณ์ต่าง ๆ รอบโลก
วิกฤตเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในทองคำให้เป็นสินทรัพย์ที่หลบภัย ความโลภก็สามารถส่งผลต่อราคาทองคำได้เช่นกัน เมื่อนักลงทุนเก็งกำไรว่าทองคำจะขึ้นราคา นั่นจะส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
อัตราดอกเบี้ยและข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ก็อาจส่งผลกระทบต่อทองคำได้เช่นกัน ทองคำและอัตราดอกเบี้ยมีความสัมพันธ์ในทางลบ ในทำนองเดียวกัน ทองคำยังมีความสัมพันธ์ทางลบกับดอลลาร์สหรัฐ เมื่อราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น มูลค่าของดอลลาร์สหรัฐก็มักจะลดลง และในทำนองกลับกัน อย่างไรก็ดี ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจและความไม่แน่นอน ทั้งสองอาจเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากนักลงทุนมองว่าทั้งทองคำและดอลลาร์สหรัฐเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย
ทำไมการศึกษาราคาในอดีตจึงสำคัญ?
จงอย่าละเลยการศึกษาราคาในอดีต เพราะมันอาจให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าแก่คุณได้
ระบุแนวโน้ม: สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมของทองคำในสภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน
จัดการความเสี่ยง: การทราบรายละเอียดของความผันผวนในอดีตช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล
ปรับกลยุทธ์การลงทุนให้ดีขึ้น: เรียนรู้จากอดีตเพื่อให้สามารถเลือกเวลาซื้อ-ขายได้ดีขึ้นในอนาคต
เริ่มเทรดสินค้าโภคภัณฑ์กับ FBS เปิดบัญชีทดลองตอนนี้เลย
ขั้นตอนที่ 2: เลือกประเภทสินทรัพย์ที่เหมาะสม
เครื่องมือการลงทุนในทองคำมีหลายรูปแบบ ตั้งแต่ทองคำกายภาพ (เช่น ทองคำแท่ง เครื่องประดับ) ไปจนถึงกองทุน ETF สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) และออปชัน ซึ่งแต่ละประเภทต่างก็มีความเสี่ยง ประโยชน์ และพลวัตของตลาดที่แตกต่างกัน นี่คือรายละเอียดของเครื่องมือหลักในการเทรดทองคำ
ทองคำกายภาพ (Physical Gold)
ทองคำที่เป็นกายภาพยังคงเป็นที่นิยมในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ มันเป็นการลงทุนระยะยาวที่ปลอดภัยและช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและวิกฤตเศรษฐกิจ การซื้อทองคำกายภาพ (เช่น เหรียญทองคำ ทองคำแท่ง เครื่องประดับ) หมายถึงคุณกำลังซื้อสินทรัพย์ที่มีตัวตนจริง ซึ่งเป็นโลหะมีค่าที่จับต้องได้ และปราศจากความเสี่ยงด้านคู่สัญญา (counterparty risk)
อย่างไรก็ตาม ทองคำกายภาพก็มีข้อเสียเช่นกัน ด้วยความที่มันสภาพคล่องต่ำ มันจึงใช้เวลาในการซื้อหรือขายนานกว่าเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทางการเงินแบบกระดาษ นอกจากนี้ มันยังต้องการการเก็บรักษาที่ปลอดภัย และหากคุณซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย คุณอาจต้องเสียค่าบริการและค่าจัดเก็บเพิ่มเติม
กองทุนรวมทองคำ
กองทุน ETF คือกองทุนที่รวมสินทรัพย์หลายประเภทไว้ด้วยกัน และมีวัตถุประสงค์เพื่อเลียนแบบผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิง
ด้วยกองทุน ETF คุณจะสามารถกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ทองคำหลายประเภท และไม่ต้องกังวลใด ๆ เพราะกองทุนนี้ได้รับการจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม ข้อดีย่อมมาพร้อมกับข้อเสีย ได้แก่ ค่าใช้จ่ายอาจค่อนข้างสูง และการพึ่งพาผู้จัดการกองทุนก็มีความเสี่ยงของมันเอง
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าและออปชั่นทองคำ
ออปชั่นจะให้สิทธิ์แต่ไม่ใช่ข้อผูกมัดในการซื้อหรือขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำในราคาที่กำหนดก่อนวันหมดอายุ
ส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำคือข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อซื้อหรือขายทองคำในราคาที่ตกลงกันล่วงหน้าในอนาคต
นักลงทุนหลายคนเลือก สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ (ฟิวเจอร์ส) และ ออปชั่น เนื่องจากพวกมันมีสภาพคล่องสูง และสามารถเข้าถึงทองคำในปริมาณมากผ่านการใช้เลเวอเรจ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นที่น้อยกว่า
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียก็มีเช่นกัน ได้แก่ การใช้เลเวอเรจมีความเสี่ยงสูง สัญญาต้องถูกดำเนินการก่อนวันหมดอายุ และการเทรดฟิวเจอร์สจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ
ทองคำในรูปแบบดิจิทัล
สกุลเงินดิจิทัลมีหลายประเภท รวมถึงประเภทที่ผูกมูลค่ากับทองคำ โดยโทเคนดิจิทัลจะแทนปริมาณทองคำที่กำหนด ซึ่งทำให้มันสามารถซื้อขายได้ง่ายเหมือนหุ้นหรือฟอเร็กซ์
แต่ต้องระวังเพราะตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีความเสี่ยงสูงมาก และคำสั่งซื้อขายของคุณจะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มหรือโบรกเกอร์ที่เลือกใช้ ควรตรวจสอบประวัติบริษัทและใช้บริการเฉพาะโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องของค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมและเก็บรักษา ดังนั้นต้องศึกษารายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้ดีเพื่อให้คุณไม่ต้องตกใจทีหลัง
เป้าหมาย | สินทรัพย์ที่ดีที่สุด |
การรักษาความมั่งคั่งระยะยาว | ทองคำกายภาพ |
การเทรดและเก็งกำไรระยะสั้น | สัญญาซื้อขายล่วงหน้า/ออปชั่น |
การเข้าถือง่ายและต้นทุนต่ำ | กองทุนทองคำ |
ป้องกันเงินเฟ้อ | ทองคำกายภาพ |
การเทรดด้วยเลเวอเรจ | สัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือออปชั่น |
การเก็งกำไรจากราคาระยะสั้น | ฟิวเจอร์ส ออปชั่น หรือกองทุน |
เคยลองเทรดทองคำไหม? เริ่มต้นเลยกับ FBS!
ขั้นตอนที่ 3: เลือกกลยุทธ์ของคุณ

กลยุทธ์ที่วางแผนมาอย่างดี โดยอิงตามสภาพตลาด ความยอมรับความเสี่ยง และความต้องการของนักลงทุน คือกุญแจสู่ความสำเร็จ
สไตล์การเทรดของคุณเป็นอย่างไร?
แต่ละวิธีเหมาะกับกรอบเวลาและเป้าหมายที่ต่างกัน จงศึกษาตลาดให้ดี แล้วเลือกแนวทางที่ตรงกับตัวคุณและเป้าหมายของคุณ
สำหรับเทรดเดอร์รายวัน: การเทรดแบบ Scalping อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อจับกำไรจากการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของราคาในตลาดทองคำที่มีสภาพคล่องสูง
สำหรับเทรดเดอร์แบบสวิง: การเทรดแบบเบรกเอาท์ โดยเข้าซื้อขายเมื่อทองคำทะลุระดับแนวต้านหรือแนวรับสำคัญ
การเทรดตามแนวโน้ม: การตามโมเมนตัมของทองคำไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง เหมาะกับทั้งเทรดเดอร์ระยะสั้นและระยะยาว
วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดทองคำ
หากเงินเฟ้อกำลังปรับตัวสูงขึ้น มูลค่าทองคำก็มักจะปรับตัวสูงขึ้น (ตัวอย่างเช่น ช่วงที่เงินเฟ้อพุ่งในปี 2022) หากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น ราคาทองคำอาจปรับตัวลง เพราะนักลงทุนหันไปลงทุนในพันธบัตรหรือเงินสดที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า
กำหนดเป้าหมายของคุณ แล้วเริ่มต้นเทรดทองคำไปกับ FBS!
การวิเคราะห์และการจัดการความเสี่ยง
แม้ว่าการวิเคราะห์ตลาดอาจดูยากในตอนแรก แต่ทักษะเหล่านี้จะช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับการเทรดของคุณ ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อติดตามข้อมูลเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ไม่ควรมองข้ามเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Moving Averages, RSI, ATR และระดับ Fibonacci Retracement อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือเหล่านี้ได้ในบทความของ FBS: “การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรดคืออะไร?”
ตัวอย่างการใช้ ATR (Average True Range) ใช้ช่วยหาจุดเข้าเทรดได้โดย เปิดกราฟ XAUUSD และเพิ่มตัวบ่งชี้ ATR พร้อมตั้งค่าระยะเวลาที่ 15 หาก ATR วิ่งขึ้น แสดงว่ามีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นอีก
ขั้นตอนสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ทุกคนคือการบริหารความเสี่ยงอย่างชาญฉลาด ตั้งคำสั่ง Stop เพื่อจำกัดความเสียหาย และกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ทองคำ
ตัวอย่างกลยุทธ์: ใช้สัญญาณจากการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ (Moving Average Crossover)
หนึ่งในวิธีที่จะทำกำไรจากแนวโน้มบ่อยครั้งของทองคำคือการใช้กลยุทธ์การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ (moving average crossover) ตามแนวทางนี้ ทองคำถือว่าควรซื้อเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ระยะยาว ในทางกลับกัน ควรขายทองคำเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ระยะยาว แล้วจะเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสองอย่างไรดี? การใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 ช่วง และ 60 ช่วง บนกราฟ 1 ชั่วโมง อาจเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะช่วยให้คุณสามารถเทรดในช่วงกลางของแนวโน้มได้
ตัวอย่างกลยุทธ์: ติดตามระดับอัตราดอกเบี้ยจริง
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้ข้อมูลจากปัจจัยต่าง ๆ เพื่อสร้างผลกำไรได้ ตัวอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ย: เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง มักส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้น หมายเหตุว่ากลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มองในระยะยาวเท่านั้น!
หากคุณเป็นเทรดเดอร์ระยะยาว คุณอาจพิจารณาโอกาสซื้อทองคำเมื่ออัตราผลตอบแทนจริง (real yields) ต่ำกว่า 1% โดยใช้ผลตอบแทนของพันธบัตรป้องกันอัตราเงินเฟ้อ
(TIPS) เป็นตัวแทนอัตราดอกเบี้ยจริงในสหรัฐฯ แต่ถ้าผลตอบแทนของ TIPS เพิ่มขึ้นเกิน 2% นักลงทุนมักจะมองหาช่องทางขายแทน
FBS มอบโอกาสให้คุณทำกำไรจากการเทรดทองคำ: เริ่มต้นเลยวันนี้!