ภาพรวมตลาด
ดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งหลังการประชุม FOMC ล่าสุด ซึ่งประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ แสดงจุดยืนเหยี่ยวอย่างชัดเจน โดยระบุว่าการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม “ยังไม่ใช่สิ่งที่ตัดสินใจแล้ว” ท่าทีดังกล่าวส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นทันที และกระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ในวงกว้างทั่วตลาดโลก ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังสามารถทนทานต่อสภาพดอกเบี้ยสูงได้ ประกอบกับการลดขนาดงบดุล (QT) ที่กำลังเข้าสู่ช่วงปลาย ล้วนช่วยเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่าเงินดอลลาร์ยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ในภาวะที่ตลาดโลกเผชิญความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีและการค้าระหว่างประเทศ
ในอีกด้านหนึ่ง เศรษฐกิจแคนาดายังเผชิญแรงกดดันจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่สูงถึง 50% สำหรับสินค้าเหล็ก อะลูมิเนียม และรถยนต์ ซึ่งกระทบโดยตรงต่อภาคการผลิตและการส่งออก ธนาคารกลางแคนาดา (BOC) จึงตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เหลือ 2.25% เพื่อพยุงเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว โดยแม้จะส่งสัญญาณว่ารอบการผ่อนคลายน่าจะใกล้สิ้นสุด แต่ก็ย้ำว่าจะ “คงดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง” เพื่อรักษาเสถียรภาพเงินเฟ้อให้อยู่ใกล้เป้าหมาย 2% ภาพรวมดังกล่าวสะท้อนถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจภายในประเทศ และความจำเป็นที่ BoC ต้องอาศัยนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อเนื่อง ซึ่งมักเป็นแรงกดดันต่อค่าเงินแคนาดา (CAD) ในเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงกว่าอย่างชัดเจน
แรงกดดันเงินเฟ้อในแคนาดาแม้จะขยับขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 2.4% ในเดือนกันยายน แต่ยังคงอยู่ในกรอบที่ BOC สามารถบริหารจัดการได้ โดยทางธนาคารกลางมองว่าแรงกดดันราคามาจากปัจจัยชั่วคราว เช่น ราคาพลังงานและค่าเช่าที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ตลาดแรงงานยังมี “กำลังการผลิตส่วนเกิน” และแนวโน้มการบริโภคภาคครัวเรือนยังอ่อนแรง ยอดค้าปลีกเดือนกันยายนที่หดตัวลง 0.7% สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ระมัดระวังมากขึ้น ท่ามกลางต้นทุนครัวเรือนที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ อีกทั้งผลสำรวจภาคธุรกิจล่าสุดยังบ่งชี้ว่ายอดขายเฉลี่ยลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแรงนี้ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงิน CAD และจำกัดขอบเขตที่ BOC จะกลับไปขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต
ขณะเดียวกัน ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าต่อเมื่อเทียบกับแคนาดา ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศยังตึงตัว แม้รัฐบาลแคนาดาภายใต้การนำของนายมาร์ก คาร์นีย์จะพยายามกระชับความร่วมมือกับจีนเพื่อชดเชยผลกระทบจากสงครามภาษี แต่ความไม่แน่นอนเชิงโครงสร้างยังคงสูง และการเจรจากับสหรัฐฯ ยังแทบไม่มีความคืบหน้า ความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังคงหลีกเลี่ยงสินทรัพย์แคนาดา และหันกลับมาถือครองสินทรัพย์สกุลดอลลาร์มากขึ้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
USDCAD
คู่เงิน USDCAD ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยราคายังยืนเหนือกรอบแนวรับสีแดงได้อย่างมั่นคงและเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเทรนไลน์ขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าแรงซื้อในตลาดยังคงหนุนทิศทางบวกและช่วยรักษาโมเมนตัมขาขึ้นไว้ได้อย่างดี การทรงตัวเหนือโซนดังกล่าวแสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังคงมองว่าราคามีศักยภาพในการปรับตัวขึ้นต่อ ทั้งนี้แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 1.41340 ซึ่งเป็นระดับสำคัญที่อาจเห็นแรงขายทำกำไรบางส่วนเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุดกรอบแนวรับบริเวณ 1.38800 ลงมาอย่างชัดเจน จะเป็นสัญญาณเตือนว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนแรง โดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 1.38190
USDCAD (DAILY)

