ภาพรวมตลาด
ในช่วงที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (XBRUSD) ยังคงเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากภาวะอุปทานล้นตลาดที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ โดยรายงานขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่าการเติบโตของอุปทานน้ำมันโลกปีนี้อาจสูงถึง 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปีหน้าที่ 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นผลมาจากการเร่งผลิตของประเทศนอกกลุ่ม OPEC+ อย่างสหรัฐฯ บราซิล และแคนาดา ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันโลกกลับขยายตัวเพียงเล็กน้อย ภาพรวมดังกล่าวจึงเริ่มสะท้อนถึงภาวะเกินดุลที่มีนัยสำคัญและกดดันตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ควบคู่กันนั้น กลุ่ม OPEC+ ก็มีท่าทีผ่อนคลายมาตรการจำกัดอุปทาน โดยได้ทยอยยกเลิกการลดกำลังการผลิตบางส่วน ล่าสุดมีการเพิ่มกำลังผลิตราว 137,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนตุลาคม การเคลื่อนไหวนี้ยิ่งทำให้ความกังวลเรื่องอุปทานส่วนเกินทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในครึ่งแรกของปี 2026 แม้บางประเทศอย่างรัสเซียและอิรักจะติดข้อจำกัดเชิงโครงสร้างที่ทำให้ไม่สามารถส่งออกได้ตามเป้าเต็มจำนวน แต่ทิศทางโดยรวมยังคงเป็นการนำอุปทานกลับเข้าสู่ตลาด ซึ่งถือเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันในระยะกลางถึงยาว
ในอีกด้านหนึ่ง ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคดูเหมือนจะมีเสถียรภาพมากขึ้น โดย OPEC คงคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกที่ 3.0% สำหรับปี 2025 และ 3.1% ในปี 2026 อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของการใช้น้ำมันยังแตกต่างกันระหว่างภูมิภาค โดยกลุ่มประเทศ OECD มีความต้องการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่จีนและอินเดียยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ความเสี่ยงจากภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแรงและอัตราดอกเบี้ยที่ยังสูงในประเทศพัฒนาแล้วยังคงเป็นตัวแปรที่อาจจำกัดการบริโภคน้ำมันในอนาคต
แม้จะมีปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความตึงเครียดในตะวันออกกลางหรือสถานการณ์รัสเซีย ที่อาจช่วยพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ทรุดลงแรงเกินไปในระยะสั้น แต่หากพิจารณาภาพรวมแล้ว ภาวะอุปทานล้นตลาดจากทั้ง OPEC+ และผู้ผลิตนอกกลุ่มยังคงเป็นแรงกดดันหลัก ขณะที่แรงเก็งกำไรของนักลงทุนเริ่มชะลอลงและความเชื่อมั่นในตลาดเปลี่ยนสู่โหมดระมัดระวังมากขึ้น ทั้งหมดนี้จึงบ่งชี้ว่าราคาน้ำมันเบรนท์ (XBRUSD) ยังมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อในระยะกลาง แม้จะมีแรงพยุงบางส่วนจากเหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
XBRUSD
ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงอย่างชัดเจน โดยราคายังคงเคลื่อนที่อยู่ใต้กรอบแนวต้านสีแดง ซึ่งสะท้อนถึงแรงขายที่ยังคงกดดันตลาด ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวยังคงเป็นไปตามกรอบเทรนไลน์ขาลงที่ลากต่อเนื่องมาจากช่วงก่อนหน้า ทำให้แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นเชิงลบและบ่งบอกว่าตลาดยังไม่สามารถกลับเข้าสู่ทิศทางบวกได้ในเวลานี้ ทั้งนี้แนวรับถัดไปที่สำคัญจะอยู่บริเวณ 63.20 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่ตลาดอาจหยุดพักหรือเกิดแรงซื้อกลับขึ้นมาได้ แต่หากราคาสามารถทะลุกรอบแนวต้านบริเวณ 68.90 ดอลลาร์ขึ้นไปได้อย่างมั่นคง ก็อาจส่งสัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้มเข้าสู่ภาวะขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรจับตามองอย่างใกล้ชิด
XBRUSD (DAILY)
