ภาพรวมตลาด
แนวโน้มของดัชนี UK100 ยังคงเผชิญแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูงเกินเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) โดยข้อมูลล่าสุดในเดือนเมษายนระบุว่า อัตราเงินเฟ้อรายปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.5% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และยังเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งปี ปัจจัยหลักที่ผลักดันเงินเฟ้อ ได้แก่ ต้นทุนค่าจ้าง ค่าโดยสาร และค่าสาธารณูปโภคที่เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ BOE จะดำเนินมาตรการลดดอกเบี้ยบางส่วนแล้ว แต่ท่าทีของหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่เตือนให้ระมัดระวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม สะท้อนถึงแรงกดดันด้านราคาที่ยังไม่คลี่คลายเต็มที่ ซึ่งส่งผลให้ตลาดขาดความมั่นใจในทิศทางนโยบายการเงิน และอาจเป็นปัจจัยฉุดรั้งต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดหุ้นอังกฤษ
แม้ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหราชอาณาจักรในไตรมาสแรกจะเติบโตได้ 0.7% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่การขยายตัวดังกล่าวมีแรงสนับสนุนจากปัจจัยชั่วคราว อาทิ การเร่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจก่อนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และภาษีภายในประเทศ นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า ไตรมาสนี้อาจเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปี ขณะที่อัตราการเติบโตมีแนวโน้มชะลอลงในไตรมาสถัดไป นอกจากนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนมีนาคมยังกลับมาหดตัว -0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความเปราะบางของภาคการผลิตซึ่งถือเป็นเสาหลักสำคัญของเศรษฐกิจอังกฤษ จึงไม่น่าแปลกใจหากดัชนี UK100 จะเผชิญแรงขายจากความกังวลต่อเสถียรภาพของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน ตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแอลง โดยอัตราการว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการเติบโตของค่าจ้างเริ่มชะลอลง แม้ว่าระดับค่าจ้างยังคงสูงเมื่อเทียบกับเป้าหมายเงินเฟ้อของ BOE แต่บริษัทจำนวนมากเริ่มแสดงความกังวลต่อภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้บางธุรกิจชะลอการลงทุนออกไป ความไม่แน่นอนด้านนโยบาย โดยเฉพาะจากผลกระทบของภาษีนำเข้าและภาษีเงินเดือน ยังคงเป็นปัจจัยที่อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นและฉุดโมเมนตัมของภาคธุรกิจ โดยรวมแล้ว ปัจจัยเหล่านี้มีแนวโน้มสร้างแรงกดดันต่อดัชนี UK100 ในช่วงระยะสั้นถึงระยะกลาง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
UK100
ดัชนี FTSE 100 (UK100) ยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะของการสะสมตัวบริเวณแนวต้านสำคัญ ซึ่งแสดงอยู่ภายในกรอบสีแดงบนกราฟรายวัน โดยแม้ว่าราคาจะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาหลังจากการปรับฐานในช่วงก่อนหน้า แต่ก็ยังไม่สามารถทะลุผ่านกรอบแนวต้านดังกล่าวได้อย่างเด็ดขาด สถานการณ์นี้ยังคงสะท้อนความเสี่ยงต่อการอ่อนตัวในระยะสั้น จากมุมมองทางเทคนิค ค่า RSI ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับประมาณ 58 ซึ่งแม้จะอยู่ในเขตบวก แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน ขณะเดียวกัน ค่า MACD ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับศูนย์ แต่เริ่มมีสัญญาณของการชะลอตัวในโมเมนตัมเชิงบวก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนของฝั่งซื้อที่ยังไม่มั่นคงนัก หากราคายังไม่สามารถผ่านพ้นกรอบแนวต้านสีแดงได้อย่างชัดเจน ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดแรงขายกลับลงมาอีกครั้ง โดยแนวรับถัดไปอยู่ที่บริเวณ 8,245.26 จุด อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถทะลุแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ก็จะเป็นการเปิดทางให้โมเมนตัมฝั่งขาขึ้นกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในระยะต่อไป
UK100 (DAILY)
