Double และ Triple Three เป็นรูปแบบคลื่นที่ยากที่สุด ซึ่งประกอบด้วยซิกแซ็ก (zigzag), ราบเรียบ (flat), สามเหลี่ยม (triangle), ดับเบิลซิกแซ็ก (double zigzag)และทริปเปิลซิกแซ็ก (triple zigzag) ไม่มีกฎใดที่เกี่ยวข้องกับลำดับของรูปแบบการปรับฐานเหล่านี้ ยกเว้นตำแหน่งของสามเหลี่ยมในโครงสร้างเหล่านี้
รูปแบบ Double Three คืออะไร?
พูดง่าย ๆ ว่าเป็นการรวมกันของสามรูปแบบการปรับฐาน (correction) เดี๋ยวเราไปดูตัวอย่างด้านล่างกัน
กฎหลัก ๆ สำหรับการซื้อขายด้วยรูปแบบ Double Three
- Double Three จะประกอบด้วยคลื่นสามลูกซึ่งจะถูกทำเครื่องหมายเป็น W-X-Y
- คลื่น W อาจเป็นรูปแบบการปรับฐานใดก็ได้ ยกเว้นรูปแบบ triangle
- คลื่น X และ Y อาจอยู่ในรูปของรูปแบบการปรับฐานใดก็ได้
- Double Three จะเกิดขึ้นในแนวนอนหรือลดต่ำลงสวนแนวโน้มหลัก
- ในกรณีส่วนใหญ่ Double Three ไม่ใช่การปรับฐานที่ลึก
เราจะนับการปรับฐานเป็น Double Three ได้ก็ต่อเมื่อโครงสร้างใกล้จะจบแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือมันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายรูปแบบนี้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการปรับฐาน ดังนั้น หากโครงสร้างที่เหมาะกับกฎของ Double Three มาถึง เราก็สามารถตัดสินใจทำเครื่องหมายรูปแบบนี้ได้
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าเมื่อเราเพิ่งจบคลื่น X จะมีสองสามวิธีในการปรับฐานให้จบเสมอ เราอาจมีคลื่น impulse เพื่อให้การปรับฐานอยู่ในรูปแบบ flat หากมีรูปแบบ zigzag ยาว ๆ เกิดขึ้นแทน การปรับฐานก็จะกลายเป็น double zigzag สุดท้าย หากเรามี zigzag เล็ก ๆ ตามที่แสดงในกราฟด้านบน เราอาจพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะมีรูปแบบ Double Three
ตัวอย่างจริง
รูปแบบ Double Three จาก zigzag จะแสดงอยู่บนกราฟ อย่างที่คุณเห็น คลื่น (w), (x) และ (y) เป็น zigzag ดังนั้นมันจึงเป็นรูปทรงที่ง่ายที่สุดของรูปแบบนี้ โปรดทราบว่าคลื่น (y) เหมือนกับคลื่น (w) มาก ๆ ดังนั้นการปรับฐานจะเคลื่อนตัวไปในแนวนอน ซึ่งเป็นจุดสำคัญสำหรับกฎของ Double Three
อีกตัวอย่างหนึ่งจะอยู่ในกราฟถัดไป มีรูปแบบ Double Three ที่มีคลื่น (x) ลูกใหญ่ นอกจากนี้ เราสามารถเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนระหว่าง Double Three และ Double Zigzag คลื่น (x) ในที่นี้คือ Double Zigzag ดังนั้นคลื่นนี้จึงมีทิศทางพุ่งขึ้น คลื่น ((iv)) ไม่มีทิศทาง ดังนั้นเราสามารถทำเครื่องหมายเหมือนรูปแบบ Double Three ได้เป็น (w)-(x)-(y)
เดี๋ยวเราไปดูกราฟด้านล่างกัน มี 2 Double Three ในคลื่น B และ ((x)) คลื่น (y) ของ ((x)) เป็นรูปแบบ flat ซึ่งเป็นส่วนที่ซับซ้อนที่สุดของโครงสร้าง ในขณะเดียวกัน รูปแบบ Double Three ทั้งสองจะมีทิศทางในแนวนอน (จำไว้ว่านั่นคือเกณฑ์ชี้นำของทุก Double Three)
บางครั้งคลื่น X อาจยาวกว่าคลื่น W มาก ดังที่คุณเห็นในกราฟถัดไป คลื่น (x) จะสิ้นสุดใต้จุดเริ่มต้นของคลื่น (w) แต่แล้วคลื่น zigzag ที่พุ่งขึ้น (y) ก็มาถึง นอกจากนี้ คลื่น (a) ของ (x) ยังเป็น leading diagonal ที่ทำให้การนับนี้ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้น ในการนับคลื่นตามเวลาจริง เราสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการจบคลื่น ((b)) ที่เป็นไปได้ในลักษณะ Double Zigzag หลังจากคลื่น (i) และ (ii) ของ ((c)) เท่านั้น
รูปแบบ Triple Three คืออะไร?
รูปแบบนี้ยาวกว่า Double Three ดังนั้นมันจึงแบ่งย่อยออกเป็นห้าคลื่น ซึ่งทั้งหมดจะเคลื่อนตัวไปด้านข้างสวนกับแนวโน้มหลัก
กฎหลัก ๆ สำหรับการซื้อขายด้วยรูปแบบ Triple Three
- Triple Three จะประกอบด้วยคลื่นห้าลูก ซึ่งระบุเป็น W-X-Y-X-Z
- คลื่น W, X และ Y อาจเป็นรูปแบบการปรับฐานใดก็ได้ ยกเว้น triangles
- คลื่น X ลูกที่สองและ Z อาจอยู่ในรูปของรูปแบบการปรับฐานใดก็ได้
- Triple Three จะเกิดขึ้นในแนวนอนหรือลดต่ำลงสวนแนวโน้มหลัก
- ในกรณีส่วนใหญ่ Triple Three ไม่ใช่การปรับฐานที่ลึก
Triple Three เป็นรูปแบบที่พบได้ยากมาก ดังนั้นคุณควรพยายามหลีกเลี่ยงการนับตามเวลาจริง คุณสามารถดูตัวอย่างรูปแบบนี้ได้ในกราฟถัดไป โดยที่คลื่น ((b)) คือ Triple Three เราจะพิจารณาโครงสร้างนี้เป็น Triple Zigzag ได้เฉพาะหลังจากคลื่น (z) เท่านั้น จริง ๆ แล้ว มันใช้กับรูปแบบการปรับฐานอื่น ๆ ได้ทั้งหมด ดังนั้นเราควรรอจนกว่าโครงสร้างทั้งหมดของการปรับฐานจะมาถึง เพื่อทำการตัดสินใจเกี่ยวกับการนับคลื่นอย่างใดอย่างหนึ่งที่เหมาะกับกฎมากที่สุด
