ภาพรวมตลาด
แรงหนุนสำคัญที่ผลักดันแนวโน้มขาขึ้นของ USDJPY ยังคงมาจากภาพเงินเฟ้อญี่ปุ่นที่แม้ตัวเลข headline และ core cpi จะทรงตัวเหนือระดับ 2% ต่อเนื่องยาวนาน แต่รัฐบาลกลับอนุมัติแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ควบคู่ไปกับมาตรการอุดหนุนราคาพลังงาน ซึ่งมีแนวโน้มกดให้เงินเฟ้อทั่วไปลดลงต่ำกว่า 2% ตลอดปี 2026 ผลลัพธ์คือแรงกดดันต่อ BOJ ในการ “เร่ง” ขึ้นดอกเบี้ยให้เร็วและแรงมีไม่มากนัก เพราะอัตราเงินเฟ้อถูกควบคุมด้วยนโยบายรัฐมากกว่าการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศอย่างแท้จริง นั่นทำให้ช่องว่างดอกเบี้ยระหว่างญี่ปุ่นที่ยังอยู่ในระดับต่ำมาก กับฝั่งสหรัฐที่ยังมีดอกเบี้ยจริงเป็นบวกสูง ยังคงกว้างต่อไป และเอียงน้ำหนักไปทางดอลลาร์ ซึ่งเป็นแรงหนุนตรงให้ USDJPY มีแนวโน้มไต่ระดับขึ้นต่อในเชิงพื้นฐาน
แม้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นจะเริ่มขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 สะท้อนสัญญาณว่าผู้บริโภคเริ่มกลับมาจับจ่ายในสินค้าคงทนและบริการสันทนาการมากขึ้น แต่หากพิจารณาเชิงโครงสร้าง ยังไม่ใช่สัญญาณ “ฟื้นตัวอย่างแท้จริง” ในมุมรายได้ เพราะรายได้จริงที่ปรับเงินเฟ้อแล้วยังแทบไม่เติบโต และค่าใช้จ่ายด้านอาหารยังหดตัวต่อเนื่องจากราคาที่สูงขึ้น เมื่อภาพการบริโภคยังเปราะบาง BOJ จึงมีเหตุผลหนักแน่นที่จะคงนโยบายการเงินผ่อนคลายและขึ้นดอกเบี้ยในลักษณะ “ช้าและระมัดระวัง” เพื่อไม่ให้ทำลายโมเมนตัมการฟื้นตัวที่เพิ่งเริ่มต้น ในมุมตลาดเงิน นั่นเท่ากับว่าดอกเบี้ยเยนยังถูก และยังสามารถทำหน้าที่เป็นสกุลเงินแหล่งทุนได้ต่อ เปิดทางให้เงินทุนไหลไปหาผลตอบแทนสูงกว่า เช่น ดอลลาร์สหรัฐ
ด้านความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจจริง ญี่ปุ่นยังต้องรับมือกับปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะความตึงเครียดกับจีน ซึ่งโกลด์แมน แซคส์ประเมินว่าหากกระทบต่อการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างมีนัยสำคัญ อาจฉุดจีดีพีลงได้ราว 0.2–0.3 จุดเปอร์เซ็นต์ต่อปี แม้ว่าบัญชีเดินสะพัดจะยังเกินดุลสูงจากการส่งออกและรายได้จากต่างประเทศ แต่ความเสี่ยงด้านการเติบโตเช่นนี้มักทำให้ทั้งรัฐบาลและ BOJ เลือกใช้นโยบาย “เซฟโหมด” มากกว่าการขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว เพื่อหลีกเลี่ยงการสะดุดทางเศรษฐกิจอีกครั้ง สถานการณ์ที่ยังต้องพึ่งมาตรการกระตุ้นและนโยบายการเงินผ่อนคลายแบบต่อเนื่อง จึงมีแนวโน้มผลักให้เงินทุนญี่ปุ่นไหลออกไปแสวงหาผลตอบแทนต่างประเทศ และเป็นแรงพื้นฐานที่กดให้เยนอ่อนค่าทางโครงสร้าง ซึ่งสอดคล้องกับภาพ USDJPY ที่ยังมีช่องทางขยับขึ้นได้ต่อเนื่อง
สุดท้าย สัญญาณจาก BOJ เองก็มุ่งไปในทิศทางของ “การขึ้นดอกเบี้ยแบบระมัดระวัง” มากกว่าการเข้าสู่รอบคุมเข้มอย่างจริงจัง ทั้งจากถ้อยแถลงของกรรมการอย่าง Noguchi ที่เน้นว่าห้ามขึ้นเร็วเกินไป และจากผู้ว่าการ Ueda ที่แม้เปิดทางให้ขยับดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม แต่ก็ผูกเงื่อนไขไว้กับข้อมูลค่าจ้างและความยั่งยืนของแรงกดดันเงินเฟ้อ ขณะที่ฝั่งสหรัฐ แม้ตลาดคาดหวังการลดดอกเบี้ย แต่ Fed เองสื่อสารในเชิง “ลดแบบเหยี่ยว” มากกว่า อีกทั้งตลาดยังไม่ได้ตีราคาการผ่อนคลายหนัก ๆ ในช่วงต้นปี ช่องว่างดอกเบี้ยจริงระหว่างสองประเทศจึงยังกว้างอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อประกอบกับท่าทีนโยบายของ BOJ ที่ยังจำกัดความเร็วในการขึ้นดอกเบี้ย และ Fed ที่ลดอย่างค่อยเป็นค่อยไป โมเมนตัมปัจจัยพื้นฐานทั้งหมดจึงยังเอียงไปในทิศทางสนับสนุนให้ USDJPY มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อได้ในระยะถัดไป
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
USDJPY
ราคายังคงทรงตัวเหนือกรอบแนวรับสีแดงได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมเคลื่อนที่ต่อภายในกรอบเทรนไลน์ขาขึ้นที่ยังคงทำงานได้ดี สะท้อนแรงซื้อที่ยังคงหนุนทิศทางโดยรวมไว้ในฝั่งบวกอย่างชัดเจน ตราบใดที่ราคายังยืนเหนือโซนรับดังกล่าวได้ ก็มีโอกาสที่จะเห็นการไต่ระดับขึ้นไปสู่แนวต้านถัดไปบริเวณ 159.030 ได้ไม่ยาก ในทางกลับกัน หากราคาอ่อนตัวจนหลุดระดับ 152.600 ลงมาเมื่อใด โมเมนตัมขาขึ้นอาจเริ่มชะลอตัว และเปิดทางให้ราคาปรับฐานลงไปทดสอบแนวรับถัดไปแถวบริเวณ 149.818 ได้อีกครั้ง
USDJPY (DAILY)

