ภาพรวมตลาด
แม้ว่าญี่ปุ่นจะเผชิญแรงกดดันจากนโยบายการค้าที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในประเด็นภาษีนำเข้าที่มีการปรับเพิ่ม แต่เศรษฐกิจภายในประเทศกลับเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งสะท้อนถึงความยืดหยุ่นของระบบเศรษฐกิจในประเทศ ท่ามกลางความท้าทายจากภายนอก ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงเดินหน้านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อเนื่อง โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% เพื่อประคับประคองการเติบโตในระยะปานกลาง ทั้งนี้ หนึ่งในสัญญาณบวกสำคัญคือการที่บริษัทขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นประกาศแผนการขึ้นค่าจ้างในระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งไม่เพียงสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน แต่ยังอาจช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในช่วงครึ่งหลังของปีด้วย
ในด้านของภาวะเงินเฟ้อ แม้จะยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่ก็มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะในหมวดอาหาร ซึ่งกดดันกำลังซื้อของประชาชนบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิตของญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเมื่อรวมกับตัวเลขการส่งออกที่ยังคงทำสถิติสูงสุด โดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ยิ่งช่วยหนุนภาพรวมเศรษฐกิจ แม้จะมีแรงต้านจากภาษีนำเข้า แต่ความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสินค้าหลักอย่างรถยนต์ไฮบริดและอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของภาคอุตสาหกรรมและการค้าต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ญี่ปุ่นยังคงเลือกใช้แนวทางการทูตแบบ “ได้ประโยชน์ร่วมกัน” เพื่อคลี่คลายแรงตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ โดยมุ่งเน้นการเสนอแผนการลงทุน การสร้างห่วงโซ่อุปทานร่วม และความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างประเทศ แทนที่จะพึ่งพาการเรียกร้องลดภาษีเพียงอย่างเดียว ความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นในการรักษาดุลยภาพเชิงนโยบายควบคู่กับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจาก BOJ จึงอาจช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชนและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในภาพรวมแล้ว มีแนวโน้มที่จะหนุนให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี หากไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามากระทบอย่างมีนัยสำคัญ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
JP225
ดัชนีหุ้นญี่ปุ่น Nikkei 225 (JP225) เริ่มแสดงสัญญาณการกลับตัวขึ้นอย่างชัดเจนในกรอบเวลารายวัน (Daily) หลังจากที่ราคาปรับตัวลงไปทดสอบบริเวณแนวรับสำคัญในกรอบสีแดง แต่ไม่สามารถหลุดต่ำกว่าระดับดังกล่าวได้ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งพฤติกรรมราคาลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อที่เข้ามารองรับอย่างมีนัยสำคัญบริเวณแนวรับหลัก และช่วยหนุนให้แนวโน้มราคามีโอกาสเปลี่ยนเป็นขาขึ้นในระยะถัดไป จากการประเมินทางเทคนิค ค่า RSI ได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 54 ซึ่งแม้จะยังอยู่ในโซนกลาง แต่ถือว่าเริ่มเอนเอียงไปในฝั่งขาขึ้น สะท้อนถึงแรงซื้อที่เริ่มกลับเข้ามามีบทบาท ขณะที่ค่า MACD แม้ยังเคลื่อนไหวในแดนลบ แต่เริ่มมีการหดตัวของแถบฮิสโตแกรม และเส้น MACD เองก็กำลังไต่ระดับขึ้นใกล้ตัดเส้นสัญญาณจากด้านล่าง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโมเมนตัมเชิงบวกที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ การที่ราคาสามารถยืนเหนือกรอบแนวรับสำคัญได้อย่างมั่นคง ทำให้ภาพรวมของแนวโน้มขาขึ้นเริ่มได้รับการสนับสนุนมากขึ้น โดยแนวต้านถัดไปที่ควรจับตาจะอยู่ที่ระดับ 38,067 จุด ซึ่งหากสามารถทะลุผ่านไปได้อย่างแข็งแรง ก็อาจเปิดทางให้เกิดแรงซื้อรอบใหม่ได้ ขณะที่แนวรับสำคัญยังคงอยู่ที่บริเวณ 30,309 จุด ซึ่งเป็นฐานรองรับเชิงจิตวิทยา หากราคายังคงทรงตัวเหนือระดับนี้ได้อย่างต่อเนื่อง ก็จะเป็นสัญญาณบวกต่อทิศทางราคาของดัชนีในระยะกลาง
JP225 (DAILY)
