รูปแบบแท่งเทียน Spinning Top คืออะไร?

Spinning Top เป็นแท่งเทียนเดี่ยว มันแสดงให้เห็นถึงความไม่แน่ใจในตลาด แท่งเทียนมีขนาดตัวเล็กและมีเงายาวหรือมีไส้เทียนอยู่ด้านบนและด้านล่าง สิ่งนี้บอกคุณว่า ราคาเคลื่อนไหวไปทั้งสองทิศทาง แต่ไม่สามารถรักษาทิศทางใดได้ มันเหมือนกับว่าตลาดพยายามที่จะไปที่ไหนสักแห่ง แต่หมดความมั่นใจ

คุณมักจะเห็นรูปแบบ Spinning Tops ปรากฏหลังจากแนวโน้มที่แข็งแกร่งขาขึ้นหรือขาลง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะมีการกลับตัวเกิดขึ้น แต่เป็นโอกาสให้หยุดและพิจารณาอย่างละเอียดมากขึ้น พวกเขาทำเครื่องหมายหยุดชั่วคราว หากแท่งเทียนถัดไปเป็นสีแดงและพุ่งทะลุผ่านจุดต่ำสุดของ Spinning Top แท่งเทียนอาจส่งสัญญาณของการเปลี่ยนจากโมเมนตัมขาขึ้นเป็นขาลง

บริบทโดยรอบให้ความหมาย ใช้ Spinning Top เพียงอย่างเดียวไม่ได้ให้ความหมายอะไรมากนัก นอกจากนี้มันก็ไม่ได้บอกอะไรได้มากนัก หากก่อตัวขึ้นในตลาดไซด์เวย์หรือในกรอบแคบ ๆ แต่ Spinning Top จะมีความสำคัญก็ต่อเมื่อมันปรากฏใกล้จุดสำคัญอย่างแนวรับ แนวต้าน หรือระดับ Fibonacci และได้รับการยืนยันด้วยแท่งเทียนถัดไปว่ามีการเปลี่ยนทิศทางจริง

Spinning Top สามารถปรากฏในกรอบเวลาใดก็ได้ มันอาจมีความหมายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่ามันก่อตัวขึ้นที่ไหน ตัวอย่างเช่น บนกราฟ 5 นาที Spinning Top อาจบ่งบอกถึงช่วงเวลาแห่งความลังเลในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ในกราฟรายวันหรือรายสัปดาห์อาจส่งสัญญาณว่าการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในแนวโน้มระยะยาวกำลังจะมาถึง

โปรดคำนึงถึงขนาดของเทียนด้วย หากไส้เทียนมีความยาวมากเมื่อเทียบกับตัวเทียน มันแสดงให้เห็นถึงความผันผวนที่สูงขึ้นและความแข็งแกร่งของสงครามระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ไส้เทียนที่เล็กกว่าอาจแสดงว่ามีพลังงานน้อยลงหรือช่วงเวลาที่เงียบสงบกว่า

Bullish Spinning Tops กับ Bearish Spinning Tops

Spinning Tops ถือว่าเป็นแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นกลาง แต่ยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มบริบทได้ คือการปิดของแท่งเทียนอยู่สูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาเปิดเล็กน้อย

Bullish Spinning Top คือแท่งเทียนที่ปิดสูงกว่าราคาเปิดเล็กน้อย หมายความว่าฝั่งซื้อเป็นฝ่ายชนะไปนิดหน่อย แม้มันจะยังไม่ชัดเจนก็ตาม ถ้าเกิดหลังจากช่วงขาลง อาจบอกได้ว่าความกดดันจากฝั่งขายเริ่มลดลง แต่มันยังไม่ใช่สัญญาณให้รีบซื้อ เพียงแค่ควรจับตาดูต่อไปว่าตลาดจะเคลื่อนไหวอย่างไร 

Bearish Spinning Top เป็นกรณีตรงข้าม คือแท่งเทียนปิดต่ำกว่าราคาเปิดเล็กน้อย หมายความว่าฝั่งขายมีอิทธิพลมากกว่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากพอที่จะกดราคาให้ลงอย่างชัดเจน ถ้าเกิดหลังจากช่วงขาขึ้นยาว ๆ อาจเป็นสัญญาณว่าพลังการซื้อเริ่มอ่อนแรงลง

ทั้งสองรูปแบบแท่งเทียนนี้ดูแทบจะเหมือนกัน มีขนาดตัวแท่งเทียนเท่ากันและมีไส้เทียนยาว สีของตัวแท่งแทบไม่มีน้ำหนักมากนัก เว้นแต่ว่าแท่งถัดไปจะให้สัญญาณยืนยันบางอย่าง

Spinning Tops กับรูปแบบแท่งเทียนอื่น ๆ

ความผิดพลาดที่พบบ่อยคือการเข้าใจผิดคิดว่า Spinning Tops คือแท่งเทียน Doji ในตอนแรกอาจดูคล้ายกัน และทั้งคู่แสดงถึงความลังเล แต่ความหมายและโครงสร้างของมันต่างกัน

Spinning Top เหมือนเกมชักเย่อที่สมดุล ทั้งสองฝ่ายดึงราคาไปฝั่งของตัวเองแต่ไม่สามารถคุมไว้ได้นาน สุดท้ายราคากลับมาใกล้จุดเริ่มต้น มันแสดงแค่ความลังเลเท่านั้น เว้นแต่ว่าจะมีสัญญาณยืนยันการกลับตัว ตัวแท่งเทียนของมันอยู่กึ่งกลางของช่วงราคา และไส้เทียนทั้งสองยาวเท่ากัน ทำให้ถือว่าเป็นกลาง มันต้องการสิ่งอื่นมายืนยันทิศทางตลาด เช่น แท่งเทียนถัดไป หรือระดับแนวรับแนวต้าน

ส่วนแท่งเทียน Doji แสดงถึงความลังเลอย่างสมบูรณ์ ราวกับว่าไม่มีฝ่ายใดดึงราคาขึ้นหรือลงได้เลย หากเกิดหลังจากแนวโน้มแรง ๆ อาจเป็นสัญญาณบอกถึงการกลับตัวของราคาได้

Spinning Tops บางครั้งก็ถูกเข้าใจผิดกับ Hammer, Inverted Hammer, และ Shooting Star แต่แท่งเทียนเหล่านี้มีความหมายต่างกัน

Hammer มีตัวแท่งเทียนขนาดเล็กอยู่ด้านบนและไส้เทียนล่างยาว เกิดหลังจากขาลง และอาจบอกสัญญาณการเด้งขึ้น หมายความว่าราคาลงแรง แต่ฝั่งซื้อดันตัวแท่งกลับขึ้นมา

Inverted Hammer จะเป็นตรงกันข้าม มันก่อตัวขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้น มีตัวแท่งเทียนขนาดเล็กอยู่ด้านล่างและไส้เทียนบนยาว

Shooting Star เป็นเหมือน Inverted Hammer แต่เกิดหลังแนวโน้มขาขึ้น ไม่ใช่แนวโน้มขาลง สิ่งนี้สามารถส่งสัญญาณได้ว่าราคาถึงจุดสูงสุดแล้ว

วิธีการเทรดรูปแบบ Spinning Top

การที่เห็น Spinning Top ไม่ได้หมายความว่าควรกดปุ่มซื้อหรือขายทันที เมื่อเห็นมันอยู่เพียงลำพัง มันก็เป็นเพียงการหยุดชั่วคราวเท่านั้น สิ่งที่ทำให้มันมีประโยชน์คือบริบทโดยรอบที่มันสร้างขึ้น เมื่อมันสอดคล้องกับเครื่องมือทางเทคนิคสำคัญ เช่น Fibonacci retracement, แนวโน้มราคา หรือ RSI มันสามารถกลายเป็นสัญญาณเทรดที่แข็งแรงได้

หนึ่งในกลยุทธ์ที่น่าเชื่อถือคือการเทรด Spinning Tops ที่เกิดใกล้สัญญาณ RSI ที่ซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป พร้อมใช้ระดับ Fibonacci หลักในการกำหนดจุดเข้าซื้อและขาย เช่น จุดสูงสุด swing high 0.0% และระดับ retracement อย่าง 38.2% และ 61.8%

ตัวอย่าง: Spinning Top + Fibonacci + RSI บนกราฟ USDJPY 4 ชั่วโมง

1. ในตัวอย่างนี้ คู่เงิน USDJPY เด้งขึ้นไปถึงระดับ Fibonacci 0.0% และสร้างจุดสูงสุดที่แนวต้าน นี่คือสัญญาณแรก

2. จากนั้นเกิดแท่ง Spinning Top ซึ่งบ่งบอกถึงความลังเล นี่คือสัญญาณที่สอง

3. เราจะเห็นว่า RSI อยู่เหนือ 70 ซึ่งหมายความว่าคู่เงินนี้อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป และปริมาณซื้อขายลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนอีกอย่างว่าโมเมนตัมของตลาดเริ่มอ่อนแรง นี่คือสัญญาณที่สาม

4. แท่งเทียนถัดไปเป็นสีแดงและลงต่ำกว่าต่ำสุดของ Spinning Top นี่คือสัญญาณยืนยัน และสามารถใช้เป็นจุดเข้าเทรดขาย (short) ได้

ตัวอย่างการตั้งค่าเทรด:

• จุดเข้าเทรด: ต่ำกว่าต่ำสุดของ Spinning Top

• Stop Loss: สูงกว่าจุดสูงสุดของไส้เทียน Spinning Top

• Take Profit: ระดับ Fibonacci 38.2% หรือแนวรับใกล้ที่สุด

การเทรดพร้อมกับสัญญาณยืนยันสองถึงสามอย่าง สามารถเพิ่มโอกาสที่การตั้งค่าการเทรดของคุณจะมีความน่าเชื่อถือ ด้านล่างเป็นรายการสัญญาณยืนยันที่แข็งแรงสำหรับเทรดด้วย Spinning Tops

• ราคาทะลุจุดสูงหรือต่ำสุดของ Spinning Top

• เส้นแนวโน้ม

• RSI ซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป

• MACD ตัดกันหรือแยกออก

• ปริมาณเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว

• ระดับ Fibonacci retracement หรือ projection

• ระดับแนวรับและแนวต้าน

การจับภาพหน้าจอขณะเทรด Spinning Tops เป็นวิธีฝึกที่มีประโยชน์ เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเห็นว่าภาวะไหนทำงานได้ดีและภาวะไหนไม่ได้ Spinning Tops ที่น่าเชื่อถือที่สุดมักเกิดหลังจากการเคลื่อนไหวที่ยาวนาน หากตลาดไต่ระดับมาหลายวันแล้วคุณเห็น Spinning Top นั่นมีความหมายมากกว่าถ้าคุณเห็นทันทีหลังจากการดีดตัวสองครั้งแบบสุ่ม นอกจากนี้ควรพิจารณาการซูมออก แท่งเทียน Spinning Top บนกราฟ 1 ชั่วโมงที่สอดคล้องกับแนวรับบนกราฟรายวัน จะให้ความมั่นใจมากกว่าแท่งที่อยู่กลางตลาดแบบไม่มีแนวทางชัดเจน

ข้อผิดพลาดทั่วไปเมื่อทำการเทรด Spinning Tops

1. เทรด Spinning Top โดยไม่มีสัญญาณยืนยัน การเทรดจาก Spinning Top เพียงแท่งเดียวถือเป็นความผิดพลาด หากคุณเข้าเทรดเพียงเพราะเห็นแท่งเทียนแท่งเดียว ก็เหมือนกับการที่คุณเดาเฉย ๆ ควรรอแท่งถัดไปเพื่อยืนยันทิศทาง ถ้าไม่มีแรงต่อเนื่อง อย่าเอาแท่งนั้นมาเป็นสัญญาณ

2. มองข้ามบริบทบริบทคือสิ่งที่สำคัญที่สุด Spinning Top ที่เกิดในช่วงตลาดไซด์เวย์ที่ผันผวนจะบอกอะไรคุณได้น้อยมาก แต่ถ้าเกิดหลังจากการเคลื่อนไหวแรง ๆ หรือที่ระดับเทคนิคสำคัญ มันอาจมีความหมายบางอย่าง ควรพิจารณาแนวโน้มราคา ระดับราคา และโครงสร้างราคาเสมอ

3. เข้าใจผิดว่าเป็นแท่งเทียนอื่น โดยแท่งเทียน Spinning Top สามารถถูกเข้าใจผิดว่าเป็น Doji, Hammer หรือ Shooting Star ได้ง่าย แต่ละแบบมีโครงสร้างและความหมายต่างกัน คุณสามารถเรียนรู้แต่ละแบบและฝึกสังเกตจากกราฟจริงได้

4. เร่งรีบเข้าเทรดอีกความผิดพลาดคือการเทรดแบบรีบร้อน ความอดทนคือกุญแจสำคัญ ให้ตลาดแสดงให้คุณเห็นว่ามันจะไปทางไหน แท่งเทียน Spinning Top เฉย ๆ ไม่ใช่สัญญาณของคุณ แต่สัญญาณยืนยันที่ตามมา เช่น การพุ่งทะลุผ่านจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดอย่างชัดเจน คือสิ่งที่ควรใช้เป็นจุดเข้าเทรด

สรุป

Spinning Top ไม่ใช่สัญญาณเทรดโดยตัวมันเอง มันเหมือนสัญญาณเตือนว่าบางอย่างอาจกำลังเปลี่ยน แต่ยังไม่ชัดเจน มันบอกว่าตลาดกำลังลังเล แต่เมื่อแท่งนี้เกิดในจุดที่เหมาะสม เช่น จุดที่แนวโน้มที่แข็งแกร่งเริ่มหมดแรง, ระดับ Fibonacci สำคัญ หรือแนวรับ/แนวต้านสำคัญ และได้รับการยืนยันจากตัวชี้วัดหรือการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม มันสามารถกลายเป็นเบาะแสที่เชื่อถือได้

คุณสามารถมอง Spinning Top เป็นชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ใหญ่ เพื่อช่วยหาจังหวะเข้า-ออกตลาดด้วยความมั่นใจมากขึ้น แต่ถ้าไม่สนใจบริบทและสัญญาณยืนยัน มันก็จะเป็นแค่แท่งเทียนแบบสุ่มบนกราฟ การฝึกสังเกตแท่งเทียนและดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่แท่งเทียนเหล่านี้ปรากฏตัวเป็นการเริ่มต้นที่ดี การทำแบบนี้เป็นวิธีที่ดีในการสร้างความมั่นใจในการเทรด ควรศึกษาแท่งเทียนโดยพิจารณากราฟทั้งหมดและบริบทโดยรอบประกอบด้วย แม้มันจะละเอียดอ่อนกว่ารูปแบบแท่งเทียนอื่น ๆ แต่ Spinning Tops สามารถเป็นเบาะแสที่มีค่าในการหาจังหวะเทรดเมื่อมีข้อมูลอื่นมายืนยัน